สวัสดีค่ะ ^^ รู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ท่านได้เข้ามาอ่านบล็อกนี้ ขอแนะนำตัวเองก่อนเลยนะคะ ชื่อนางสาวชัญญานุช วรรณวิจิตร ซึ่งชื่อมีความหมายว่า หญิงสาวผู้ประเสริฐ ส่วนนามสกุลมีความหมายว่า ผิวรรณที่งดงามวิจิตร (ก็รู้สึกว่าความหมายชื่อและนามสกุลของตัวเองดี๊ดีค่ะ มันใช่อะค่ะ ตรงเผงๆ เลย ฮ่าๆ) ชื่อเล่น ชื่อนับหนึ่ง เรียกหนึ่งเฉยๆ ก็ได้ค่ะ แต่เพื่อนๆ ที่ Univ เรียกหญิงแม้น เพราะอะไรน่ะหรอคะ หนึ่งก็มิอาจทราบได้ อาจจะเป็นเพราะน่ารัก เรียบร้อยกระมังคะ อิอิ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขา ดนตรีศึกษา - ดนตรีไทย กศ.บ. 5 ปี
วันศุกร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2534 ปีมะแม วันนี้เป็นวันที่แม่บอกกับหนึ่งว่า "แม่ได้มีสิ่งที่มีค่าที่่สุดในชีวิตแล้ว" คุณแม่ท่านคงดีใจและเป็นสุขอย่างมากที่ได้กำเนิดลูกสาวตัวเล็กๆ ตาดำๆ คนนี้กมาเป็นของขวัญแด่ชีวิตท่าน หนึ่งเกิดมาพร้อมความโชคดีของคุณพ่อคุณแม่ เพราะวันที่หนึ่งเกิดเป็นวันครบรอบการก่อตั้งโรงพยาบาลเลิศสินพอดี เลยได้ทำคลอดฟรี แถมได้ของขวัญสมนาคุณอีกมากมาย อะไรจะดีขนาดนี้ หนึ่งเกิดมาเพื่อที่จะเป็นลูกสาวของคุณพ่อคนเก่ง เป็นลูกสาวของคุณแม่ที่แสนจะใจดีแถมยังสวยอีกด้วย คุณแม่คุณพ่อก็ได้ลูกสาวที่น่ารัก แถมยังคลอดฟรีอีกต่างหาก อิอิ ภูมิใจที่ได้เกิดมา ประวัติการเกิดของหนึ่งไม่ยาวเลยนะคะ อยากจะเล่าอีกนะ แต่กลัวคนอ่านจะเบื่อเอาเสียก่อน อิอิ บุคคลที่หนึ่งรักมากที่สุดในชีวิตก็คือคุณตาคุณยาย คุณพ่อคุณแม่ และก็น้องชาย คุณตาคุณยายเป็นบุคคลที่สำคัญและมีพระคุณต่อชีวิตหนึ่งเป็นที่สุด ท่านคอยช่วยคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูหนึ่งมาตั้งแต่เล็กตนโต คุณตาคุณยายสอนให้หนึ่งรู้จักชีวิตที่ดีงาม สอนให้รู้จักเอาตัวรอดในสังคม คอยเป็นที่พึ่งพิงให้หนึ่งในทุกๆ เมื่อ ไม่ว่าจะอยู่ไหนหนึ่งก็มักจะคิดถึงและเป็นห่วงคุณตาคุณยายเสมอ เล่าถึงคุณพ่อคุณแม่นะคะ คุณพ่อท่านเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ หล่อ ขาว ตี๋ ตัวเล็ก ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ร้องทั้งวันยังได้ แต่ดีหน่อยที่คุณพ่อเป็นคนเสียงดี ร้องเพลงได้เพราะมาก (สำหรับหนึ่งนะคะ) เลยพอฟังได้ ถ้าใครคิดจะจีบหนึ่งละก็ ไปหัดร้องเพลงของหยาดนภาลัย เพลงอมตะ อะไรประมาณที่ ที่วัยรุ่นฟังแล้วอยากจะหลับชัก 3 วันไม่ตื่นมาเลยค่ะ คุณพ่อของหนึ่งท่านจะปลื้มมาก ส่วนคุณแม่ท่านเป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด ตอนเป็นสาวพ่อเล่าให้หนึ่งฟังว่า หุ่นแม่เซ็กซี่มาก แต่ ณ ปัจจุบัน หนึ่งนึกภาพที่คุณพ่อเล่าไม่ออกเลยค่ะ ฮ่าๆ คุณแม่เป็นผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในโลก น่ารัก เป็นนางฟ้า เป็นธนาคาร ประจำครอบครัวเรา คุณแม่ท่านอาจจะขี้บ่นนิดๆ ตามสภาวะวัยทองที่เข้ามาเยี่ยมเยือน แต่นั่นแหละค่ะ สีสันของชีวิตหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลย คุณพ่อและคุณแม่คือบุคคลที่หนึ่งรักมากที่สุด รักยิ่งกว่าชีวิต เพราะท่านคือทุกอย่างของหนึ่ง เป็นสิ่งที่สูงค่าที่สุดในชีวิตของหนึ่ง ไม่มีท่านหนึ่งคงไม่มีวันนี้ ไม่มีชีวิตที่ดีงามแบบนี้ ไม่ว่าจะเกิดชาติหน้าหรือชาติไหนๆ หนึ่งก็ขอเป็นลูกแม่กับพ่อทุกชาติไป
หนึ่งมีน้องชายร่วมสายโลหิตอยู่ 1 คน ชื่อน้อง "เอก" อายุห่างกัน 2 ปี น้องเอกตอนเป็นเด็กน่ารักมากว่านอนสอนง่าย แต่พอโตขึ้นความว่านอนสอนง่ายหายไปบ้างนิดนึงแต่ก็พอจะให้อภัยกันได้ หนึ่งกับน้องเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเล็ก ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนเล่นกันอยู่ แต่เล่นแบบแมนๆ มากขึ้น น้องเอกมีความสามรถพิเศษในการเล่นดนตรี Guitar,Trumpet และความสามารถในการรับประทานอาหารที่เก่งและไวมาก พี่สาวคนนี้ขอคารวะ
โดยภาพรวมๆของหนึ่งแล้ว ข้อดีของหนึ่ง หนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ร่าเริง ไม่ชอบพูดคำหยาบ เก็บอารมณ์ได้ดี ขี้สงสาร จริงใจ ตรงไปตรงมา รักสัตว์ ชอบที่จะอยู่กับเด็กเล็กๆ เคารพรักความกตัญญู รักครอบครัว รักศักดิ์ศรี ข้อเสีย ขี้ลืม เบื่อง่าย หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น ไม่ค่อยตรงต่อเวลา บางทีก็ขี้เกียจเกินเหตุ มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่มีความมั่นใจในตนเอง เอาแต่ใจ ใจอ่อน เชื่อคนง่าย
หนึ่งชอบสี....ชมพู,สีเขียวอ่อน,สีน้ำเงิน,สีเหลือง
หนึ่งชอบทาน....ส้มตำปูปลาร้า,ข้าวเหนียวหมูปิ้ง,ขนมเค้กแช่เย็นๆ ไอติมช็อกโกแล็ตและข้าวเหนียวมะม่วง
หนึ่งชอบทานผลไม้...ทุเรียน,ลิ้นจี่,สตอว์เบอรี่,มะม่วงเปรี้ยว
หนึ่งมีความสนใจใน...หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา หนังสือธรรมะต่างๆ ดนตรีไทย การสวดมนต์ การทำอาหาร เย็บปักถักร้อย งานศิลปะทุกประเภทที่เป็นงาน Handmade แสนยานุภาพยุทโธปกรณ์ การทำศึกสงคราม สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษร์ธรรมชาติ สุนัขพันธุ์ Labrador ปลาทอง ปลาโลมา และปลาคาร์ฟสีสันสวยงาม
ความสามารถพิเศษของหนึ่ง ก็คือการกิน การนอน และการคิดอะไรที่เพ้อเจ้อ อันนี้เป็นความสามารถพิเศษที่ไร้สาระ แต่ความสามารถพิเศษที่พอจะมีสาระก็คือการขับร้องเพลงไทยเดิม การเล่นดนตรีไทย จะเข้,ซออู้ ส่วนดนตรีสากลก็เล่น Piano ค่ะ เล่นได้ สองสามเพลงนี้แหละค่ะ ฮ่าๆ ครั้งแรกที่หนึ่งคิดจะหัดเล่นดนตรีไทยก็เพราะมีความชอบดนตรีไทยอยู่แล้ว ประกอบกับโชคดีที่มีเพื่อนเล่นดนตรีไทยเป็นในตอนนั้นหนึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 หนึ่งจึงถูกชักชวนจากนางสาวมัดหมี่ ศรีธรรมา เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น ให้เข้ามาเล่นดนตรีไทยในชมรมดนตรีไทยโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม ครูที่ปรึกษาชมรมก็คืออาจารย์พวงทอง แสนเยีย อาจารย์คนนี้แหละ แม่คนที่ 3 เลยก็ว่าได้เพราะท่านได้สอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับหนึ่ง สอนให้เล่นดนตรี สอนให้ร้องเพลง สอนให้คิดให้ทำแต่สิ่งดีๆ หาข้าวหาน้ำมาให้ทานเวลาซ้อมดนตรี หาเวทีให้หนึ่งกับเพื่อนๆ ในชมรมแสดงความสามารถทางดนตรีหลายครั้งที่พวกเราเล่นผิดบ้าง ร้องเพี้ยนบ้างแต่อาจารย์ก็ไม่เคยดุด่าเลยสักครั้ง ท่านกลับยิ้มให้ ทำให้หนึ่งไม่รู้สึกประหม่าและถูกติเตียนเวลาที่เล่นผิด ซึ่งผิดบ่อยซะด้วย อิอิ และท่านเองก็เป็นแรงบันดาลใจให้หนึ่งอยากเรียนดนตรีไทยต่อไปในระดับอุดมศึกษา ด้วยความชอบส่วนตัวด้วยก็อีกประการหนึ่ง แต่ประการที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวหนึ่งเองก็คืออยากจะอนุรักษ์สิ่งที่เป็นรากเหง้าที่แท้จริงของความเป็นไทยเอาไว้เพื่อไม่ให้ค่านิยมสมัยใหม่เข้ามากลืนกินวัฒนธรรมของคนไทยไปจนหมดสิ้น แล้วความฝันหนึ่งก็เป็นจริงหนึ่งสามารถสอบตรงเข้ามาเรียนในสิ่งที่ตนเองอยากเรียนได้ และก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดด้วยความศรัทธา หนึ่งถือว่าตนเองได้ทำบุญทำกุศลมามากถึงได้สามารถเล่นเพลงไทยได้ ได้มีเพื่อนที่ดีๆ ได้มาพบพานและได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์ที่มากไปด้วยความรู้ทั้งทางวิชาการ ทางโลก และทางธรรม หนึ่งรักอาจารย์พวงทอง แสนเยียที่สุดเลยค่ะ
คุณพ่อและคุณแม่คือบุคคลที่หนึ่งรักมากที่สุด รักยิ่งกว่าชีวิต เพราะท่านคือทุกอย่างของหนึ่ง
เป็นสิ่งที่สูงค่าที่สุดในชีวิตของหนึ่ง ไม่มีท่านหนึ่งคงไม่มีวันนี้ ไม่มีชีวิตที่ดีงามแบบนี้
คุณตาคุณยายเปรียบเสมือนแม่คนที่ 2 ของหนึ่ง ท่านสอนให้หนึ่งรู้จักชีวิตที่ดีงาม
สอนให้รู้จักเอาตัวรอดในสังคม คอยเป็นที่พึ่งพิงให้หนึ่งในทุกๆ เมื่อ
ไม่ว่าจะอยู่ไหนหนึ่งก็มักจะคิดถึงและเป็นห่วงคุณตาคุณยายเสมอ
อาจารย์พวงทอง แสนเยีย อาจารย์คนนี้แหละ แม่คนที่ 3 เลยก็ว่าได้
เพราะท่านได้สอนอะไรหลายๆ อย่างให้กับหนึ่ง สอนให้เล่นดนตรี สอนให้ร้องเพลง
สอนให้คิดให้ทำแต่สิ่งดีๆ และท่านเองก็เป็นแรงบันดาลใจให้หนึ่งอยากเรียนดนตรีไทย
